หากเกิดการชุมนุมประท้วงทางการเมือง หรือเกิดการจราจลอื่นๆ หนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับควบคุมฝูงชนก็คือ แก๊สน้ำตา ซึ่งแก๊สนี้จะประกอบไปด้วยสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อร่างกายได้
แก๊สน้ำตา คืออะไร?
แก๊สน้ำตา คือ อุปกรณ์ที่บรรจุสารเคมีสำหรับใช้ควบคุมฝูงชนหรือเวลาที่มีการจราจลเกิดขึ้น แก๊สนี้หากมีการสัมผัสโดน ก็จะส่งผลทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา เจ็บตา ผิวหนังระคายเคือง หายใจลำบาก แก๊สนี้จะไปกระตุ้นประสาทต่อมน้ำตาทำให้มีน้ำตาไหลออกมา สำหรับการใช้งานนั้นจะใช้โดยการยิงจากเครื่องยิงแก๊สน้ำตา หรืออาจจะใช้แบบระเบิดขว้าง
สารเคมีที่อยู่ในแก๊สน้ำตา
ในแก๊สนี้จะมีสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบมากกว่า 12 ชนิด แต่หลักๆแล้วจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่
- CN gas (Chloroacetophenone) สำหรับ CN gas ถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แต่ได้ถูกนำมาใช้จริงๆโดยกองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงของสงครามเวียดนาม โดยการใช้งานจะอยู่ในรูปละอองลอยที่บรรจุในอุปกรณ์อัดความดัน
- CS gas (Chlorobenzylidenemalonitrile) จะมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว หากเกิดการไหม้จะเกิดก๊าซไม่มีสีขึ้นมา ได้ถุกนำมาใช้เป็นอาวุธในช่วงของสงครามเวียดนาม และใช้กันต่อเนื่องจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
- CR gas (Dibenzoxazepine) ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมของประเทศอังกฤษช่วงต้นทศวรรษ 1960 เป็นผลึกสีเหลืองซีด ซึ่งจะมีกลิ่นคล้ายกับพริกไทย โดยในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะไม่ได้ใช้สารตัวนี้เพื่อควบคุมการก่อจราจล เพราะว่าสารตัวนี้เป็นสารที่สามารถก่อมะเร็งได้
อันตรายที่เกิดจากแก๊สน้ำตา
สำหรับอาการและความรุนแรงหลังจากที่โดนแก๊สน้ำตานี้จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารเคมี และสุขภาพส่วนตัวของแต่ละบุคคล โดยสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายดังนี้
- มีอาการน้ำตาไหล
- มีอาการคันตา แสบตา
- กล้ามเนื้อบริเวณรอบเบ้าตากระตุก ลืมตาไม่ขึ้น
- เวลามองจะเห็นเป็นภาพเบลอ
- เยื่อบุตาและหนังตาบวม
- หากโดนแรงอัดจากแก๊สน้ำตา กระจกตาจะเป็นแผล มีเลือดออกในตา
- มีน้ำมูกไหล แสบร้อน คันจมูก
- หายใจลำบาก รู้สึกแน่นหน้าอก
- อาจเกิดภาวะหายใจล้มเหลว
- มีอาการเจ็บคอ มีเสมหะ ไอ
- น้ำลายไหล รู้สึกแสบปาก
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากโดนแก๊สน้ำตา
- ให้นำผู้ป่วยไปบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
- ให้ทำการถอดชุดที่โดนแก๊สน้ำตาออก
- หากมีละอองแก๊สติดตามบริเวณผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำในปริมาณมากๆ
- ให้นำน้ำสะอาดมาล้างดวงตาประมาณ 15 นาที ทำได้โดยการเอียงศรีษะแล้วค่อยๆเทน้ำให้ไหลผ่านดวงตา
แม้ว่าแก๊สน้ำตาจะไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายพอสมควร ดังนั้นหากสัมผัสโดนก็ควรที่จะรีบปฐมพยาบาลเพื่อเป็นการบรรเทาอาการระคายเคืองต่างๆลง