รวมวิธี ลบรอยแผลเป็นจากสิว ที่จะช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียนมากขึ้น

การ ลบรอยแผลเป็นจากสิว ถือเป็นเรื่องที่หลายคนปวดหัวไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนถึงจะดีที่สุด เพื่อให้รอยแผลเป็นดูดีขึ้น ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นเราจึงนำวิธีรักษาแผลเป็นจากสิวที่ให้ผลดีมาบอกรับรองว่าดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

การใช้ยา ลบรอยแผลเป็นจากสิว

การใช้ยามทั้งแบบการแต้มกรด TCA การใช้ยาที่มีวิตามินเอ อย่าง Retin A หรือยาที่มีผลไม้อย่าง AHA, BHA, PHA ก็สามารถช่วยให้รอยสิวดูดีขึ้นได้

ครีมลดรอยแผล

ครีมที่ใช้ลบแผลจากสิวส่วนผสมของวิตามินอี วิตามินซี อาร์บูติน กรดโคจิก เป็นต้น การเลือกใช้ควรให้มีความเหมาะสมกับผิว ทาแล้วหน้าไม่มันเพื่อป้องกันสิวขึ้นซ้ำซ้อน

การทำไอออนโต

เป็นการใช้กระแสไฟฟ้านำยาเข้าสู่ผิวหนัง เป็นการกระตุ้นการคอลลาเจน ทำให้แผลเป็นดูดีขึ้น มีผิวตึงเรียบเนียนมากขึ้น

การฉีดยาสเตียรอยด์

แพทย์จะฉีดยาสเตียรอยด์ในตำแหน่งที่มีแผลเป็นซึ่งจะช่วยทำให้แผลเบาบางลง แต่อาจจะต้องทำหลายครั้งเมื่อดีขึ้น อาจต้องมีการทำเลเซอร์เพื่อให้ผิวเรียนเนียนขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ ลบรอยแผลเป็นจากสิว

วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาแผลเป็นที่มีร่องลึกจนกลายเป็นหลุม การฉีดฟิลเลอร์ผิวหนังให้กลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม ซึ่งต้องมีการฉีดซ้ำทุก ๆ ประมาณ 6-12 เดือน เพราะเมื่อฟิลเลอร์ที่ฉีดสลายไป รอยสิวก็จะกลับมาอีก

การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี

เป็นการใช้เกล็ดอัญมณีขัดผิวชั้นนอกสุดให้หลุดออก พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมา ทำให้ผิวตึงเนียนเรียบมากขึ้น ส่งผลให้แผลเป็นก็ดูดีขึ้น

การทำไอพีแอล

เป็นการใช้แสงความเข้มสูงที่สามารถทะลุไปถึงชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้แผลเป็นดูดีขึ้น ผิวตึงเรียนเรียบกว่าเดิม แต่ต้องอย่างต่อเนื่อง 3-4 ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน

การใช้เลเซอร์

เป็นวิธีรักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิวที่เห็นผลอย่างรวดเร็ว เพราะช่วยผลัดเซลล์บริเวณแผลเป็นอย่างล้ำลึก และหมดจด แต่ในบางกรณีอาจต้องทำซ้ำหลายครั้งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผิวหนัง

การผ่าตัด ลบรอยแผลเป็นจากสิว

หากรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วยังไม่ดีขึ้นเพราะแผลเป็นมีขนาดใหญ่ หลุมลึก ก็คงต้องใช้วิธีการผ่าตัดเอารอยแผลออก แต่ก็มีโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของแผลนูน เพราะเป็นแผลเย็บใหม่ อีกทั้งมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นควรพิจารณาให้ดี ขอแนะนำว่าควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจะดีกว่า

จะเห็นได้ว่าการ ลบรอยแผลเป็นจากสิว นั้นมีอยู่หลายวิธีให้เลือกใช้ แต่วิธีที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันควรหมั่นทำความสะอาดใบหน้า หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดสิว แต่หากเป็นขึ้นมาก็ไม่ควรแกะหรือบีบสิวโดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบมากขึ้น หายช้าลง จนสุดท้ายก็มีแผลเป็นหลุมลึกจนต้องมาแก้ไขรักษาทีหลัง