วัคซีนขณะตั้งครรภ์ และก่อนตั้งครรภ์ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

การฉีด วัคซีนขณะตั้งครรภ์ และก่อนตั้งครรภ์เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับคนที่วางแผนจะมีลูกเพราะถือว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และความแข็งแรงให้กับคุณแม่และลูกน้อย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งหากไม่ได้รับวัคซีนความเสี่ยงในการติดโรคต่าง ๆ ก็มีสูงซึ่งจะส่งผลเสียมากมายหลายอย่าง หากรุนแรงก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตทั้งแม่ และลูกได้ โดยวัคซีนที่จำเป็นต้องฉีดก็มีดังนี้

วัคซีนก่อนการตั้งครรภ์

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี – ไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลัน อาจส่งผลให้ตับวายได้ หากคุณแม่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีก็จะกลายเป็นพาหะของโรค ที่ทำให้ติดต่อไปถึงลูกในท้อง ดังนั้นหากวางแผนตั้งครรภ์ควรตรวจเลือดดูว่าเป็นพาหะของเชื้อโรคนี้หรือไม่ หรือดูว่ามีภูมิคุ้มกันหรือยัง ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการให้วัคซีน โดยจะมีการฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยหลังจากฉีดเข็มแรกแล้ว เดือนถัดไปจึงจะฉีดเข็มที่ 2 หลังนั้นอีก 6 เดือนจึงฉีดเข็มที่ 3

วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน – วัคซีนชนิดนี้ควรฉีดก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน โดยจะฉีดเพียง 1 เข็มเท่านั้น เพราะการติดเชื้อนี้ในระหว่างตั้งครรภ์จะทำให้ลูกมีความผิดปกติได้หลายไม่ว่าจะเป็นสมอง หัวใจ หู ตา แขน และขา เป็นต้น

วัคซีนขณะตั้งครรภ์

วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก – โรคเหล่านี้หากเป็นอาจจะรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ทั้งแม่ และลูก โดยจะฉีดตอนมีอายุครรภ์ 27 – 36 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้คุณแม่ไม่ติดเชื้อได้ง่าย ถ้าหากไม่ฉีดจนมีการป่วยหรือติดเชื้ออาจจะทำให้มีการคลอดก่อนกำหนดได้ โดยวัคซีนทั้ง 3 โรคนี้จะฉีดพร้อมกัน 1 เข็ม นอกจากจะป้องกันโรคได้แล้วยังป้องกันการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ และคลอดบุตร ได้อีกด้วย

วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ – หากเป็นไข้หวัดใหญ่ในขณะตั้งครรภ์ความรุนแรงจะมากกว่าคนธรรมดา ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นก็รุนแรงตามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ปวดบวม หากมีอาการที่รุนแรงอาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต

ดังนั้นหากกำลังวางแผนจะมีลูกคุณแม่ก็ไม่ควรละเลยทั้งวัคซีนก่อนการตั้งครรภ์ และ วัคซีนขณะตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายพร้อมมีความแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดีเพื่อป้องกันการติดโรคต่าง ๆ นอกการฉีดวัคซีนยังทำให้ลูกน้องปลอดภัยตั้งแต่อยู่ในท้องจนถึงหลังคลอด ส่งผลให้มีร่างกายที่แข็งแรงเติบโตสมวัยอีกด้วย ที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ในเรื่องการฉีดวัคซีนให้ละเอียดเพื่อที่ทั้งแม่ และลูกจะได้มีความปลอดภัยให้มากที่สุด